ย้ายไปแคนาดา.....มณฑลควีเบ็ค (Quebec)
ย้ายไปแคนาดา…..มณฑลควีเบ็ค (Quebec)
ในมณฑลควีเบคซึ่งเป็นสังคมที่ประชากรถึง ๘๒ เปอร์เซ็นต์ใช้ภาษาฝรั่งเศสในการสื่อสารในชีวิตประจำวัน เปิดกว้างรับผู้อพยพจากชาติต่างๆมากเกินกว่าร้อยชาติจากทั่วโลก โดยจำนวนผู้อพยพมาอยู่ควีเบ็คในแต่ละปีมีจำนวนมากเพิ่มขึ้น ทำให้เกิดอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิ่จและมีการพัฒนาความหลากหลายทางด้านสังคมและวัฒนธรรมต่อควีเบ็คเป็นอย่างมาก รัฐบาลมณฑลควีเบ็คมีนโยบายในการรักษาวัฒนธรรมแบบฝรั่งเศส รวมทั้งภาษาพูด ได้ออกเป็นกฎหมายในการกำหนดให้ภาษาฝรั่งเศสเป็นภาษาหลักของมณฑล แต่ขณะเดียวกันก็ยังคงสนับสนุนให้ประชากรสามารถใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่สองควบคู่กันไป โดยประชากรที่ใช้อังกฤษเป็นภาษาหลักก็มีจำนวนมากมายตามเมืองต่างๆทั่วไป ในชีวิตประจำวันทั่วไปนั้น จะสังเกตได้ว่าชาวควีเบ็คโดยส่วนใหญ่สามารถพูดภาษาทั้งฝรั่งเศสและอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่ว ในควีเบ็คหลักสูตรการศึกษากำหนดให้ใช้ภาษาฝรั่งเศสเป็นส่วนใหญ่ แต่หลักสูตรภาษาอังกฤษก็ยังคงมีการสอนทั่วไปโดยเฉพาะในสถาบันการศึกษาเอกชน |
นครมอนทรีออล (Montreal) เมืองหลวงของมณฑลควีเบ็ค ถือได้ว่าเป็นนครใหญ่ที่ใช้ภาษาฝรั่งเศสใหญ่เป็นอันดับสองของโลกเลยที่เดียว รองลงมาจากกรุงปารีสของฝรั่งเศส มอนรีออลมีประชากรหลากหลายเชื้อชาติอาศัยอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขและเป็นเมืองนานาชาติที่มีธุรกิจติดต่อค้าขายไปทั่วโลก ธุรกิจส่วนใหญ่ในมอนทรีออลนั้นเป็นธุรกิจในระดับค้าขายในระดับโลก โดยเฉพาะเทคโนโลยีระดับสูงในด้านต่างๆ ควีเบ็คมีการศึกษาในระดับโลกซึ่งถือเป็นภาคธุรกิจอีกแขนงหนึ่งที่สำคัญมาก นอกจากนี้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตในระดับสูง มีสิ่งแวดล้อมที่สะอาดปลอดภัย |
Quebec – Canada’s Gateway To The World ด้วยทำเลที่ตั้งโดดเด่นอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ (ภาคอีสาน) ของทวีปอเมริกา ทำให้มณฑลควีเบ็คเป็นเมืองธุรกิจที่ทันสมัยล้ำยุคและมีโครงข่ายเศรษฐกิจที่เชื่อมโยงไปทั่วภูมิภาคอเมริกาเหนือ เป็นเมืองที่มีกลิ่นอายของวัฒนธรรมเก่าแก่ของยุโรปและความศิวิไลซ์ของเมืองทันสมัยในแบบฉบับของอเมริกาเหนือผสมผสานกันอย่างลงตัวเมืองหลวงของควีเบ็คคือมอนทรีออลซึ่งเป็น most cosmopolitan cities in North America มอนทรีออลเป็นเมืองสำคัญที่ทำหน้าที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของควีเบ็ค เพราะมีลักษณะโดดเด่นอย่างยิ่งในหลายด้านเช่น ด้านเศรษฐกิจที่มีศักยภาพสูงและมีอัตราการเจริญเติบโตสูงมาก แต่ในขณะที่ค่าใช้จ่ายต้นทุนในการดำเนินการธุรกิจกลับต่ำ ค่าครองชีพถูกแทบจะเรียกได้ว่า ถูกที่สุดในอเมริกาหรือแคนาดาก็ว่าได้ เชื่อไหมว่านักธุรกิจที่นี่กว่า 80% พูดได้ทั้งภาษาอังกฤษและฝรั่งเศสอย่างคล่องแคล่วและอีกประมาณ 20%จากในกลุ่มนี้พูดได้ถึง สามภาษาหรือมากกว่านั้นอย่างคล่องแคล่วเลยทีเดียว ควีเบ็คมีระบบการจัดเก็บภาษีทียืดหยุ่นและและมีสิ่งล่อใจ, แรงจูงใจ เป็นที่ชื่นชอบของนักธุรกิจ ควีเบ็คมีนโยบายแบบใจกว้างและส่งเสริมจูงใจให้ธุรกิจต่างๆโดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับการวิจัยและพัฒนาในเทคโนโลยีใหม่ๆในระดับสูง สามารถที่จะขอหักลดหย่อนภาษี, ขอคืนภาษีรูปแบบต่างๆ มีโปรแกรมยกเว้นภาษีถึง ๕ ปีสำหรับค่าใช้จ่ายที่เกิดจากการว่าจ้างนักวิจัยหรือผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศในการเข้ามาทำงานค้นคว้าวิจัยในควีเบ็ค มอนทรีออลเป็นเมืองแห่งมหาวิทยาลัยที่สำคัญของแคนาดา เพราะรัฐบาลมณฑลควีเบ็คให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่งในเรื่องการศึกษา ดังนั้นมหาวิทยาลัยในควีเบ็คจึงมีชื่อเสียงโดดเด่นอย่างเห็นได้ชัดในระดับโลก ด้วยคุณภาพการศึกษาที่สูงและด้วยจำนวนบัณฑิตในสาขาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีและธุรกิจที่สูงกว่ามาตรฐานเฉลี่ยของแคนาดาโดยรวม ยิ่งไปกว่านั้นอัตราส่วนจำนวนนักศึกษามหาวิทยาลัยต่อจำนวนประชากรของควีเบ็คมีอัตราที่สูงที่สุดในอเมริกาเหนือ เรามาลองดูกันว่าควีเบ็คมีความโดดเด่นในด้านเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมอย่างไร สาขาInformation technologies 50% สาขาAerospace production 50% สาขาPharmaceuticals 45% สาขาBiotechnology 40% สาขาHigh technology exports 38% ถ้าดูตามตัวเลขสถิติข้างต้นนี้ จะเห็นได้อย่างชัดเจนว่าเศรษฐกิจของควีเบ็คนั้นล้วนแล้วแต่เกี่ยวข้องกับในเรื่องของเทคโนโลยีระดับสุงทั้งสิ้น จึงเป็นเหตุให้ควีเบ็คมีรายได้เข้ารัฐมหาศาลและมีสวัสดิการต่างให้กับประชาชนของตนเองอย่างมากมาย ดูเหมือนจะมากกว่ามณฑลอื่นๆในแคนาดาด้วยกันอย่างเห็นได้ชัด |
มณฑลควีเบ็ค – เมืองที่เศรษฐกิจเกี่ยวพันต่อเนื่องกับเศรษฐกิจฐานความรู้ (knowledge-based economy)และเมืองแห่งมหาวิทยาลัยและการค้นคว้าวิจัยด้านอุตสาหกรรม ควีเบ็คมีมหาวิทยาลัยและเครือข่ายศูนย์วิจัยด้านต่างๆซึ่งเชื่อมโยงกับภาคอุตสาหกรรม ในปี ๒๐๐๒ มีนักศึกษากว่า ๒๔๖,๐๐๐ คนลงทะเบียนเรียนในมหาวิทยาลัยต่างๆกว่า ๑๙ แห่งรวมทั้งศูนย์วิจัยต่างๆทั่วควีเบ็ค มหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงที่สุดของควีเบ็คสี่อันดับแรก อยู่ในเมืองมอนทรีออล โดยสองมหาวิทยาลัยสอนเป็นภาษาฝรั่งเศส, อีกสองมหาวิทยาบัยสอนเป็นภาษาอังกฤษ นครมอนทรีออลมีความสัมพันธ์เชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดและมีการแลกเปลี่ยนนักวิจัยหรือผลงานวิจัยกับศูนย์กลางการวิจัยที่มีชื่อเสียงในระดับโลกอย่างเช่น สถาบันเทคโนโลยีแห่งแมสซาชูเส็ท (Massachusetts Institute of Technology – MIT), universities of Toronto, หรือไม่ว่าจะเป็นมหาวิทยาลัยซึ่งมีชื่อเสียงในระดับโลกอย่างเช่น Yale, Harvard, Princeton and Cornell ล้วนแล้วแต่อยู่ห่างจากมอนทรีออลเพียงแค่เวลาหนึ่งชั่วโมงเท่านั้นโดยทางเครื่องบิน มอนทรีออลเป็นเมืองอันดับสองในทวีปอเมริกาเหนือ (โดยเทียบกับเมืองใหญ่อีก ๓๐ เมือง) ซึ่งมีสัดส่วนจำนวนนักศึกษามหาวิทยาลัยต่อจำนวนประชากรสูงเป็นรองก็เพียงเมืองบอสตันของสหรัฐฯ ด้วยจำนวนนักศึกษา ๔.๒ คนต่อประชากร ๑๐๐ คน ในปี ๒๐๐๒, มหาวิทยาลัยในควีเบ็คผลิตบัณฑิตในสาขาวิทยาศาสตร์แขนงต่างๆถึง ๑๐,๕๐๐ คนและบัณฑิตในสาขาวิทยาศาสตร์ด้านอนามัย/การแพทย์ถึง ๔,๕๐๐ คน มหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงในควีเบ็คยกตัวอย่างเช่น McGill University, Universit้ de Montr้al, Universit้ Laval and Universit้ de Sherbrooke. สถาบันการศึกษาด้านเทคโนโลยีระดับสูงเฉพาะทางหลายแห่งที่มีชื่อเสียงเช่น สาขาวิศวกรรมอวกาศ (Aerospace)-มีการเรียนการสอนใน Concordia University , Université Laval , McGill University , Université de Montréal (French language) และ Université de Sherbrooke(French language) ปริญญามหาบัณพิตด้านบริหารธุรกิจการขนส่งทางอากาศ – Air Transport MBA มีการสอนที่Concordia University ประกาศนียบัตร/ปริญญาบัตรในสาขาการสร้างอากาศยาน (Aeronautical Construction) สาขาเเทคโนโลยีการบินและการซ่อมบำรุงอากาศยาน (Avionics and Aircraft Maintenance) ก็มีเปิดสอนที่ Ecole nationale d’a้rotechnique de Saint-Hubert(French language) และที่ John Abbott College รวมทั้งวิทยาลัยการพาณิชย์ยานอวกาศก็มีสอนที่ École des métiers de l’aérospatiale de Montréal ด้านอุตสาหกรรมเวชภัณฑ์/ยา (Pharmaceutical industry) มีมหาวิทยาลัยถึง ๔ แห่งที่มีความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับบริษัทฯผู้ผลิตยาเช่น McGill University, Université Laval, Université de Montréal (French language) และ Université de Sherbrooke(French language) ควีเบ็คถือได้ว่าเป็นแหล่งขุมปัญญาและความรู้ที่สามารถผลิตบัณฑิตคุณภาพป้อนสู่อุตสาหกรรมยากว่า ๒๓,๐๐๐ คน, นักวิจัยในสาขาต่างๆกว่า ๑๐,๐๐๐ คนและทุกๆปีจะมีบัณฑิตใหม่ในสาขาที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ยาและเวชภัณฑ์ต่างๆถึงกว่า ๕,๐๐๐ คนต่อปี |
มณฑล Quebec พยายามหาแนวทางในการเชื้อเชิญให้ผู้อพยพออกไปตั้งรกรากในพื้นที่ชนบทรอบนอกมากขึ้น รัฐมนตรีกระทรวงผู้อพยพของมณฑลควีเบค ฯพณฯ Michelle Courchesneกำลังตั้งเป้าหมายในการพยายามหาแนวทางกระตุ้นเชื้อเชิญให้ผู้อพยพมาใหม่ไปตั้งรกรากในพื้นที่รอบนอกเมืองใหญ่ให้มากขึ้น เพราะกว่า ๘๕ เปอร์เซ็นต์ของผู้อพยพพากันเข้าไปอยู่แต่ในเมืองใหญ่เช่น Montreal, เมืองQuebec City ดังนั้นรัฐบาลมณฑลควีเบคกำลังพยายามสร้างแรงจูงใจโดยประกาศนโยบายเพิ่มสวัสดิการหรือผลประโยชน์พิเศษแก่ผู้ที่เลือกออกไปอยู่อาศัยตามเมืองเล็กเมืองน้อยต่างๆนอกเหนือจากเมืองใหญ่ เพื่อให้การพัฒนาทางเศรษฐกิจมีการกระจายตัวออกไปตามพื้นที่ต่างๆทั่วทั้งมณฑล มิฉะนั้นมีแต่เมืองใหญ่เท่านั้นที่ได้รับประโยชน์มากที่สุดจากการอพยพเข้ามามณฑล |