ประชากรใหม่แคนาดา (New Immigrants) มาจากเอเชียมากที่สุด
ประชากรใหม่แคนาดา (New Immigrants) มาจากเอเชียมากที่สุดผู้ถือวีซ่าถาวรแคนาดาส่วนใหญ่มาจากเอเชียในทศวรรษที่ผ่านมา ปรากฏว่าผู้ถือวีซ่าถาวรแคนาดา หรือประชากรถาวรแคนาดาจาก ประเทศจีน(แผ่นดินใหญ่), อินเดีย, ปากีสถานและฟิลิปปินส์ ยังคงติดอันดับสี่ชาติแรกที่อพยพมาแคนาดามากที่สุดในปีๆหนึ่งแคนาดาต้องการผู้อพยพจำนวนมากให้เข้ามาอยู่ในแคนาดา เพื่อเป็นกำลังขับเคลื่อนต่อการพัฒนาประเทศให้รักษาอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจให้คงอยู่ในระดับสูงเช่นในปัจจุบัน รวมทั้งชดเชยประชากรในวัยสูงอายุที่ทยอยเกษียณอายุออกไปจากระบบแรงงานในแต่ละปี ปัจจุบันแคนาดามีพลเมือง 33 ล้านคนเท่านั้น ในขณะที่มีพื้นที่กว้างใหญ่ไพศาลเป็นอันดับสองของโลก รองจากรัสเซียซึ่งมีพื้นที่ใหญ่ที่สุดในโลก ในขณะที่ ประเทศจีนมีพื้นที่ใหญ่เป็นอันดับสาม(แต่มีประชากรถึง1,300 ล้านคน) ดังนั้น ประเทศแคนาดามีพื้นที่เหลือเฟือมากมายเพียงพอที่จะรองรับประชากรผู้อพยพมาอยู่ใหม่ๆในทุกปี หมายเหตุ: ประเทศไทยของเรามีขนาดพื้นที่เล็กกว่าแคนาดาประมาณ 20 เท่า |
ผู้คนจากทั่วโลกยังคงหลั่งไหลเข้าแคนาดา ถึงแม้ว่างานตำแหน่งดีๆอาจจะต้องใช้เวลาอยู่บ้าง เช่นเดียวกับอาชีพอื่นๆ ในบางสาขา แต่ผู้ย้ายถิ่นฐานมาใหม่ก็ไม่ย่อท้อแต่อย่างใด เพราะว่าแคนาดาเป็นดินแดนที่มีเสน่ห์, มีความน่าอยู่, มาตรฐานการครองชีพสูง, รัฐบาลและประชาชนแคนาดายินดีต้อนรับชาวต่างชาติ สิ่งเหล่านี้ทำให้ผู้คนจำนวนมากยังคงหลั่งไหลยื่นสมัครขอวีซ่าถาวรเพื่อไปอยู่ในแคนาดากันอย่างล้นหลามเช่นเคย แคนาดาเองต้องการผู้อพยพเข้ามาช่วยกันพัฒนาประเทศ ซึ่งตัวเลขผู้อพยพในปัจจุบันยังไม่เข้าเป้าตามที่แคนาดาคาดหวัง แม้แคนาดาขาดแคลนประชากรก็จริงอยู่ แต่แคนาดาจะคัดเฟ้นเฉพาะผู้อพยพที่เป็นที่ต้องการจริงๆ โดยไม่ลำเอียงว่า มีเชื้อสายเผ่าพันธ์ใด มาจากทวีปใด ฯหรือส่วนไหนของโลก ถึงแม้การหางานดีๆในแคนาดาอาจใช้เวลาอยู่บ้าง แต่ผู้ย้ายถิ่นฐานมาจากทั่วโลกต่างไม่ย่อท้อ เพราะแคนาดาเป็นประเทศน่าอยู่ มีสิ่งแวดล้อมที่สะอาด มาตรฐานการศึกษาสูงเยี่ยม คุณภาพชีวิตถูกจัดให้เป็นอันดับหนึ่งในโลกติดต่อกันหลายปี ไม่มีการดูถูกเหยียดผิวและไม่มีความขัดแย้งใด อาชญากรรมต่ำมาก ความหลากหลายทางวัฒนธรรม รวมทั้งความมีน้ำใจงดงามของชาวแคนาดาที่มีความเป็นมิตร เงื่อนไขเหล่านี้ ทำให้ผู้อพยพปรับตัวเข้ากับแคนาดาได้อย่างรวดเร็วและอยู่อาศัยอย่างมีความสุข หลังจากสามารถหางานทำได้ลงตัวกับความสามารถของตนเองจำนวนผู้อพยพจากบางประเทศได้ลดจำนวนลงเรื่อย เนื่องจากหลายสาเหตุ รวมทั้งกฏเกณฑ์การรับผู้อพยพที่เข้มงวดขึ้น เข้าใจว่าในปีต่อไป ตัวเลขคงมีการเปลี่ยนแปลงไปตามเงื่อนไขต่างๆของแต่ละประเทศ |
จากสถิติโดยรวม ผู้ย้ายถิ่นฐานมาใหม่กว่าครึ่งหนึ่งหรือ 44% ตัดสินใจเลือกเมืองที่จะไปอยู่อาศัย โดยเลือกไปอยู่ใกล้ๆกับญาติหรือเพื่อนฝูง หรือโดยการแนะนำของญาติหรือเพื่อนฝูง ในขณะที่ผู้อพยพเพียง 19% ที่เลือกเมืองอยู่อาศัยในแคนาดา โดยดูแนวโน้ม/โอกาสในการหางานทำในเมืองนั้นๆ จากสถิติที่ผ่านมา เมืองเป้าหมายที่ผู้อพยพเลือกไปอยู่ ไล่เรียงตามลำดับจากมากไปหาน้อยมีดังนี้คือ อันดับหนึ่ง-โตรอนโต (มณฑลออนแทริโอ), อันดับสอง-แวนคูเวอร์ (มณฑลบริติชโคลัมเบีย), อันดับสาม-มอนทรีออล (มณฑลควีเบ็ค) และอันดับสี่-เมืองคัลการี (มณฑลอัลเบอร์ต้า-มีอุตสาหกรรมปศุสัตว์และเป็นแหล่งน้ำมันขนาดใหญ่ของแคนาดา) ลำดับดังกล่าวอาจมีการเปลี่ยนแปลงลำดับไปบ้างตามช่วงเวลา ขณะที่อันดับอื่นๆยังคงเดิม แต่อันดับสองกลายเป็นเมืองมอนทรีออล ซึ่งแซงขึ้นมาแทนที่เมืองแวนคูเวอร์ซึ่งตกไปอันดับสาม แสดงว่ามีผู้อพยพนิยมอพยพไปอยู่ใน Montreal- เมืองที่เจริญสูงสุดแบบเมืองใหญ่ในอเมริกาเหนือ แต่ยังมีเสน่ห์แบบยุโรป ใช้ภาษาราชการเป็นภาษาฝรั่งเศส (ชาวควีเบ็คแทบทุกคนพูดได้ได้ 2 ภาษา) ข้อมูลอื่นๆที่น่าสนใจเช่น ผู้อพยพมาอยู่ที่เมืองคัลการีในมณฑลอัลเบอร์ต้ากว่า 76% หางานทำได้ภายในหกเดือน ผู้อพยพไปอยู่แวนคูเวอร์ 62.7% หางานได้ภายในหกเดือน และเทียบกับ 68% ของผู้อพยพไปอยู่เมืองมอนทรีออลที่หางานทำได้ภายในหกเดือน ข้อมูลยังนำเสนอเพิ่มเติมอีกว่า จากการที่มีผู้อพยพจำนวนมากมาอยู่ตามเมืองต่างๆในแคนาดา นอกเหนือจากช่วยแก้ปัญหาแรงงานขาดแคลนได้แล้ว ยังก่อให้เกิดกระแสความต้องการซื้อสินค้าและบริการต่างๆเป็นอย่างมากในพื้นที่นั้นๆ และมีก่อให้เกิดการหมุนเวียนและมีคุณค่าสำคัญต่อเศรษฐกิจท้องถิ่นเป็นอย่างยิ่ง |